ความชำนาญของเรา
นวัตกรรม, กลไกที่เป็นเลิศ และวัสดุที่มีคุณภาพสูง คือสามสิ่งที่มิโดมีความเชี่ยวชาญและยึดถือ นอกจากนี้เรายังเน้นย้ำในเรื่องของการออกแบบและความประณีตในทุกๆเรือน
Automatic watch movements
กลไกนาฬิกา MIDO รวบรวมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมอันเข้มงวดเข้าไว้ด้วยกันนาฬิการุ่นต่าง ๆ ในแต่ละคอลเลคชั่นประกอบด้วยตัวเรือนด้านหลังแบบใสที่ช่วยให้เห็นกลไกและสุนทรียศาสตร์ด้านความงามของนาฬิกาสวิสเรือนเวลาของเราตกแต่งอย่างประณีตด้วยลูกตุ้มแกว่ง ประดับด้วยกรอบชิ้นส่วนกลไกแบบ Geneva Stripes และโลโก้ MIDO ชิ้นส่วนยึดกรอบกลไกสกรูสีน้ำเงินสไตล์ Guilloché หรือสันวงกลมลายเกรนMIDO ยังนำเสนอโครโนมิเตอร์หลายซีรีส์ที่ได้รับใบรับรองอย่างเป็นทางการ หลังจากการทดสอบอย่างเข้มงวดจากสำนักงานตรวจสอบที่เป็นกลาง นาฬิกาโครโนมิเตอร์แต่ละรุ่นมีความเฉพาะตัว และสามารถระบุได้จากหมายเลขที่สลักไว้บนเครื่องกลไก
Chronometer COSC
ใบรับรอง "โครโนมิเตอร์" เป็นเครื่องการันตีความแม่นยำสูงของนาฬิกาหรือระบบกลไก
การทดสอบต่าง ๆ ดำเนินการโดย COSC ทั้งนี้ ยังรวมถึงการตรวจสอบหมายเลขที่สลักไว้บนกลไกและควบคุมดูแลด้านสภาพแวดล้อมขณะทำการทดสอบด้วยแต่ละกลไกการทำงานจะผ่านการทดสอบแยกย่อยอย่างละเอียดเป็นเวลาหลายวัน ผ่าน 5 ขั้นตอนที่เข้มงวดในอุณหภูมิที่แตกต่างกัน (8°C, 23°C และ 38°C)ระบบกลไกจะถูกตรวจสอบเป็นเวลา 15 วันและทุก ๆ วัน รวมถึงวันเสาร์และอาทิตย์ เครื่องกลไกจะถูกทำการวัดและตรวจสอบซ้ำ ๆ หากทุกอย่างได้มาตรฐาน จึงจะได้รับการรับรอง "โครโนมิเตอร์"
การทดสอบต่าง ๆ ดำเนินการโดย COSC ทั้งนี้ ยังรวมถึงการตรวจสอบหมายเลขที่สลักไว้บนกลไกและควบคุมดูแลด้านสภาพแวดล้อมขณะทำการทดสอบด้วยแต่ละกลไกการทำงานจะผ่านการทดสอบแยกย่อยอย่างละเอียดเป็นเวลาหลายวัน ผ่าน 5 ขั้นตอนที่เข้มงวดในอุณหภูมิที่แตกต่างกัน (8°C, 23°C และ 38°C)ระบบกลไกจะถูกตรวจสอบเป็นเวลา 15 วันและทุก ๆ วัน รวมถึงวันเสาร์และอาทิตย์ เครื่องกลไกจะถูกทำการวัดและตรวจสอบซ้ำ ๆ หากทุกอย่างได้มาตรฐาน จึงจะได้รับการรับรอง "โครโนมิเตอร์"
Caliber 80 Chronometer Silicon
MIDO ตัดสินใจที่จะปรับปรุงกลไกการทำงานอันสำคัญ คาลิเบอร์ 80 โดยใช้ซิลิคอนบาลานซ์สปริง
เพื่อเป็นการเพิ่มความสามารถในการป้องกันสนามแม่เหล็ก ซึ่งกลไกนี้ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการผลิตนาฬิการะดับหรู ซิลิคอนบาลานซ์สปริงยังมอบความแม่นยำและความสามารถในการป้องกันแรงกระแทกได้ดีกว่าบาลานซ์สปริงมาตรฐานทั่วไปCALIBER 80 CHRONOMETER SILICON คือนาฬิกาที่ได้รับการรับรองโคโนมิเตอร์จาก COSC พร้อมระบบอัตโนมัติอันสุดพิเศษ คือการสามารถเก็บพลังงานสำรองได้สูงสุดถึง 80 ชั่วโมง
เพื่อเป็นการเพิ่มความสามารถในการป้องกันสนามแม่เหล็ก ซึ่งกลไกนี้ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการผลิตนาฬิการะดับหรู ซิลิคอนบาลานซ์สปริงยังมอบความแม่นยำและความสามารถในการป้องกันแรงกระแทกได้ดีกว่าบาลานซ์สปริงมาตรฐานทั่วไปCALIBER 80 CHRONOMETER SILICON คือนาฬิกาที่ได้รับการรับรองโคโนมิเตอร์จาก COSC พร้อมระบบอัตโนมัติอันสุดพิเศษ คือการสามารถเก็บพลังงานสำรองได้สูงสุดถึง 80 ชั่วโมง
Caliber 80 Big Date
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งแบรนด์ผ่านคอลเลคชั่นนาฬิกา Big Date ทาง MIDO ได้พัฒนาระบบออโตเมติกแบบพิเศษเฉพาะขึ้นโดยมีช่องวันที่ขนาดใหญ่ในกลไกคาลิเบอร์ 80นอกจากช่องวันที่ที่มีขนาดใหญ่ตามแบบฉบับเดิมแล้ว กลไกนี้ยังสามารถเก็บพลังงานสำรองได้สูงสุดถึง 80 ชั่วโมงพร้อมการตกแต่งอย่างประณีตด้วยลูกตุ้มประดับบนกรอบชิ้นส่วนกลไกแบบ Geneva Stripes และโลโก้ MIDO ซึ่งจะเห็นความงามนี้ผ่านกระจกแซฟไฟร์ด้านหลังตัวเรือนของ Commander Big Date และ Baroncelli Big Date
Caliber 80 Datometer
Caliber 80 Datometer คือนาฬิการะบบออโตเมติกที่มีหน้าจอแสดงวันที่แบบเฉพาะตัวของ MIDO และด้วยคาลิเบอร์ 80 นี้ จึงทำให้สามารถเก็บพลังงานสำรองได้สูงสุดถึง 80 ชั่วโมงซึ่งจะเห็นความงามของกลไกผ่านกระจกแซฟไฟร์ด้านหลังตัวเรือนของ Multifort Datometer
Caliber 80
Caliber 80 ของ MIDO คือนาฬิการะบบออโตเมติกรุ่นต่อไป ซึ่งสามารถเก็บพลังงานสำรองได้สูงสุดถึง 80 ชั่วโมง คิดเป็น 2 เท่าของคาลิเบอร์ทั่วไปผลิตออกมาในรูปแบบ โครโนมิเตอร์ที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการโดย
COSC (Contrôle Officiel Suisse des Chronomètres) ด้านความเที่ยงตรงแม่นยำขั้นสูงสุด
Caliber 60
Caliber 60 คือนาฬิกาโครโนมิเตอร์กลไกออโตเมติกที่ใช้นวัตกรรมการผลิตอันล้ำสมัย มีความสามารถในการเก็บพลังงานสำรองได้สูงสุดถึง 60 ชั่วโมง มากกว่ารุ่นมาตรฐานทั่วไปที่เก็บได้เพียง 48 ชั่วโมง
Diamonds
สัญลักษณ์อันน่าพิศวงของความสง่างามที่เป็นอมตะ อัญมณีเพชรเติมเต็มการสร้างสรรค์ด้วยห้วงเวลาที่แผ่ขยายสู่ความเป็นนิรันดร์ประกายอันเจิดจ้าช่วยเพิ่มความงดงามให้แก่ดีไซน์ที่เยี่ยมยอด หรือ นำสัมผัสแห่งเฟมินีนอันน่าประทับใจไปยังแบบนาฬิกาที่ไม่ฟุ้งเฟ้อเพชรที่ใช้ในการรังสรรค์ชิ้นงานแต่ละชุดของ MIDO มีใบรับรองระบุหมายเลข สี คุณภาพและจำนวนกะรัต
Gold
โลหะมีค่าที่แสนคลาสสิคนี้ คือ สัญลักษณ์ที่เป็นอมตะของความงดงามอันสูงส่งเฉพาะตัวMIDO สร้างสรรค์นาฬิกาจากทองคำ 18 กะรัต เพื่อให้ความสุนทรียศาสตร์ที่เป็นอมตะในโทนที่สวยงามอบอุ่นแสงเงางามนุ่มนวลที่ไม่อาจลอกเลียนแบบได้ของทองคำประดับบนข้อมือ กับความน่าค้นหาที่ดึงดูดทุกสายตาด้วยความงดงามอันปราศจากข้อสงสัย
Titanium
โลหะจากเทคโนโลยีชั้นสูงนี้มีคุณประโยชน์อันนับไม่ถ้วนMIDO ใช้ทฤษฎีที่เกี่ยวกับอวกาศประยุกต์เข้ากับข้อมูลทางการแพทย์ในการสร้างสรรค์นาฬิกา เพื่อให้นาฬิกามีน้ำหนักเบา ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ มีความทนทานสูง และสวมใส่สบายแม้แต่ความลึกของมหาสมุทรก็ไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป เนื่องจากไทเทเนียมสามารถทัดทานการกัดกร่อนจากน้ำทะเลได้ ซึ่งเปิดโอกาสให้ MIDO สร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ที่ทนต่อสภาวะที่ยากเย็นที่สุด
Stainless steel
MIDO เหล็กกล้าเกรดสูง 316L ในการผลิตส่วนประกอบที่เป็นเหล็ก เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ทำอันตรายต่อผิวทนทานต่อการกัดกร่อน ปราศจากผลกระทบจากสนามแม่เหล็ก และได้ทดลองแล้วว่ามีความทนทาน การผลิตนาฬิกา MIDO โดยใช้โลหะสแตนเลส ทำให้ชิ้นงานมีความคงทน ยืนหยัดอยู่คู่ทุกกาลเวลาและสภาพอากาศคุณสมบัติทางเทคนิคหลายประการของโลหะชนิดนี้ยังมาพร้อมกับความเบาบาง สวยงาม และความยืดหยุ่นในการปรับใช้ด้วย
Mother-of-pearl
ความเร้นลับของธรรมชาติ เปลือกหอยมุกกำเนิดขึ้นจากการจัดวางอย่างวิจิตรของแคลเซียมคาร์บอเนตซึ่งพบได้ในหอยบางชนิดวัสดุที่มีลักษณะพิเศษนี้ เก็บความสว่างและสะท้อนกลับเป็นประกายคลื่นอันสวยงามเปลือกหอบมุกแต่ละชิ้นมีความเป็นเอกลักษณ์ เช่นเดียวกับลายนิ้วมือ แต่ละหน้าปัดที่ตกแต่งด้วยเปลือกหอยมุก จึงมีความงดงามเฉพาะที่ไม่ซ้ำใครประกายเงางามแบ่งตามเฉด ตั้งแต่สีขาวบริสุทธิ์ไปจนถึงสีมิดไนท์บลู และไม่เคยพลาดโอกาสที่จะหว่านเสน่ห์แก่ผู้โชคดีที่พบเห็น
Watch glass
กระจกนาฬิกาของ MIDO เผยให้เห็นทุกรายละเอียดความงามบนหน้าปัดทั้งยังช่วยให้สามารถอ่านเวลาได้อย่างชัดเจนในทุกสภาพแวดล้อม ในขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมความสง่างามให้กับรูปลักษณ์ของนาฬิกาด้วยนอกจากนี้ ยังมีความทนทาน ช่วยป้องกันแรงกระแทก และคงความใสได้นานหลายปีหากมีรอยขีดข่วนเกิดขึ้น
คาร์บอนคุณสมบัติคล้ายเพชร
คาร์บอนคุณสมบัติคล้ายเพชร (Diamond Like Carbon - DLC) เป็นสารเคลือบผิวที่มักใช้ในการผลิตนาฬิกา เมื่อประสานกับเทคโนโลยีการสะสมพลาสม่าสุญญากาศ ก๊าซเฉื่อยที่ใช้จะทำให้เกิดชั้นบางเฉียบระดับนาโนเมตรของคาร์บอนกราไฟต์และอนุภาคเพชรขนาดเล็ก
DLC มีลักษณะทางกายภาพอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ มอบคุณสมบัติที่ทนทานต่อกาลเวลา กล่าวคือ มีความต้านทานสูงต่อการสึกหรอเนื่องด้วยความแข็ง ความยืดหยุ่น และประสิทธิภาพการคงรูปถาวรอย่างน่าทึ่ง นอกจากนี้ DLC มีสีแอนทราไซต์หรือสีดำเข้ม นำความงามอันแท้จริงมาสู่นาฬิกา
DLC มีลักษณะทางกายภาพอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ มอบคุณสมบัติที่ทนทานต่อกาลเวลา กล่าวคือ มีความต้านทานสูงต่อการสึกหรอเนื่องด้วยความแข็ง ความยืดหยุ่น และประสิทธิภาพการคงรูปถาวรอย่างน่าทึ่ง นอกจากนี้ DLC มีสีแอนทราไซต์หรือสีดำเข้ม นำความงามอันแท้จริงมาสู่นาฬิกา
PVD coating
กระบวนการทางเทคนิคชั้นสูงของการเคลือบฟิล์ม PVD อันบริสุทธิ์ ปราศจากการปลอมปนบนชิ้นส่วนนาฬิกา ด้วยชั้นการเคลือบที่บางเป็นพิเศษนี้ ช่วยเพิ่มความแข็งและความทนทานของนาฬิกา ในขณะเดียวกันก็เสริมความหรูหราด้วยเฉดสีที่งดงามของสีดำ สีพิงค์โกลด์ หรือสีเหลืองทอง ด้วยคุณสมบัติที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจและ แนวทางในการนำมาใช้งานที่หลากหลายขึ้น
Leather
MIDO ใช้หนังแท้เท่านั้น สำหรับทำสายหนังแท้ธรรมชาติ ประดิษฐ์อย่างใส่ใจและประกอบเข้าด้วยมือ สายหนังทุกเส้นจึงมีความยืดหยุ่นและสวมใส่สบาย นอกเหนือจากความทนทานชั้นเยี่ยม ลุคที่ไม่เคยล้าสมัยของสายนาฬิกาหนังแท้ MIDO เสริมแต่งขั้นสุดท้ายด้วยการตกแต่งระดับสูง เพื่อรูปลักษณ์ที่สง่างาม มีสไตล์ หรือสปอร์ตในบางเวลา
Patina
พาติน่า คือลวดลายเป็นเอกลักษณ์ที่เกิดขึ้นบนหนังธรรมชาติผ่านกาลเวลาที่ล่วงเลยMIDO ใช้หนังชนิดนี้เพราะความงามเฉพาะตัวอันเป็นธรรมชาติและความเงางามเป็นประกายพาติน่าทุกลายมีความแตกต่าง ดังที่เรือนเวลาชิ้นนี้อยู่คู่ตัวคุณในทุก ๆ วัน จึงทำให้มีเอกลักษณ์ตามตัวตนของคุณเองซึ่งผลจากความสุนทรีย์อันน่าทึ่งนี้ สามารถสำเร็จได้ด้วยการรักที่จะสวมใส่อย่างต่อเนื่องเท่านั้น
Milanese mesh
เคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวลบนข้อมือผู้สวมใส่ สายนาฬิกาแบบตาข่ายสไตล์ Milanese ที่ห่อหุ้มผิว ให้ความรู้สึกเหมือนสวมใส่สายหนัง แต่ประดิษฐ์จากโลหะที่มีความบางเบาและงดงามโครงสร้างของตาข่ายที่โดดเด่น มีความสามารถในการถ่ายเทอากาศอย่างดีเยี่ยม และมีรูปลักษณ์เฉพาะที่น่าปรารถนาอย่างที่สุดผลิตขึ้นครั้งแรกที่เมืองมิลานในศตวรรษที่ 19 วัสดุนี้เป็นช่องทางซึ่งแสดงถึงความงดงามเหนือกาลเวลาตามแบบฉบับของอิตาลี
Rubber
สายข้อมือยางคุณภาพสูงของ MIDO มอบลุคสปอร์ตให้แก่ผู้สวมใส่ทันทีความงามที่ไม่อาจลอกเลียนแบบได้ ของสายข้อมือยาง ซึ่งเสริมสร้างขึ้นจากคุณสมบัติทางเทคนิคหลายประการ รวมถึงความยืดหยุ่น ทนทาน และไม่ก่อให้เกิดการแพ้ด้วยน้ำหนักที่เบา สวมใส่สบาย และกันน้ำโดยธรรมชาติทำให้เหมาะกับคอลเลคชั่นนาฬิกาดำน้ำ หรือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับนาฬิการุ่นที่ทันสมัย ทว่ายังคงความสปอร์ตของ MIDO